วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง In The End - Linkin Park

IN THE END
(ท้ายที่สุด)

คำแปล: Zinerdiers      
จัดทำZinerdiers
เรียบเรียง: Linkin Park
อัลบั้ม: Hybrid Theory
[VERSE#1:]
(It start with one)
(มันเริ่มขึ้นจาก)
One thing I don't know why
สิ่งหนึ่ง, ไม่เข้าใจเลย
It doesn't even matter how hard you try
มันไม่มีค่ามากพอกับสิ่งที่เธอทำเลย
Keep that in mind, I designed this rhyme
งั้นจำใส่ใจ, ฉันแต่งเพลงนี้มา
To explain in due time
เพื่อบอกบางอย่างกับเธอ
(All I know)
(รู้เพียงว่า)
Time is a valuable thing
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า
Watch it fly by as pendulum swings
แต่กลับเมินมองอย่างลูกตุ้มเหวี่ยงไปมา
Watch it count down to the end of the day
จนมันหมดลงอย่างไร้ค่าไปวันๆ
The clock ticks life away
เสียเวลากับชีวิต
(It's so unreal)
(ไม่เหมือนจริงเลย)
Didn't look out below
เพราะความไม่ใส่ใจ
Watch the time go right out the window
เวลามันหนีออกหน้าต่างไปแล้ว
Trying to hold on but didn't even know
พยายามคว้าไว้แต่ไม่ได้รู้เลย
I wasted it all just to watch you go
ว่าสายไปเสียแล้ว เพียงมองเธอเดินจากไป
(Watch you go)
(เดินจากไป)

I kept everything inside and even though I tried, it all fell apart
ฉันทำได้แค่เก็บบทเรียนนี้ไว้ในใจแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด
What it mean to be will eventually be a memory of a time when
ส่วนสิ่งที่มีค่าที่สุดคือความทรงจำกับเวลาที่ตอนนั้น

[CHORUS:]
I tried so hard
ฉันเหนื่อยดักดาน
And got so far
จนไปได้ไกล
But in the end
แต่ท้ายที่สุด
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีค่าอะไรเลย
I had to fall
ฉันต้องล้มลง
To lose it all
ต้องเสียทุกสิ่ง
But in the end
แต่ในที่สุด
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีความหมายเลย

[VERSE#2:]
One thing, I don't know why
สิ่งหนึ่ง, เพราะอะไรกัน
It doesn't even matter how hard you try
มันถึงไม่มีค่ากับสิ่งที่เธอทำเลย
Keep that in mind, I designed this rhyme
จำให้ขึ้นใจ, ฉันแต่งเพลงนี้มา
To remind myself how
เพื่อย้ำเตือนตัวเองว่า
(I tried so hard)
(เหนื่อยมากไปแล้ว)
In spire of the way you're mocking me
ทั้งๆที่เธอดูถูกเหยียดหยันฉันอยู่
Acting like I was part of your property
ทำอย่างว่าฉันเป็นแค่ของใช้ชิ้นหนึ่ง
Remembering all the time you fought with me
นึกย้อนตอนที่เราทะเลาะกันฉันแปลกใจ
I'm surprised it got so (far)
ทำไมถึงไปกันได้ (ไกล)
Things aren't the way they were before
ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
You wouldn't even recognize me anymore
เธอไม่ใยดีกับฉันอีกต่อไป
Not that you knew me back then
เธอไม่มีวันจะรู้หรอก
But it all comes back to me
แต่ฉันกลับรับรู้ทั้งหมด
(In the end)
(ท้ายที่สุด)

You kept everything inside and even though I tried, it all fell apart
เธอต้องเก็บมันไว้ในใจ สิ่งที่ฉันทำเต็มที่แต่มันกลับล้มเหลว
What it mean to me will eventually be a memory of a time when
ส่วนสิ่งที่มีค่าที่สุดคือความทรงจำกับเวลาที่ตอนนั้น

[CHORUS:]
I tried so hard
ฉันดิ้นแทบตาย
And got so far
จนไปได้ไกล
But in the end
แต่ท้ายที่สุด
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีค่าอะไรเลย
I had to fall
ฉันต้องล้มลง
To lose it all
ต้องเสียทุกสิ่ง
But in the end
แต่ในที่สุด
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีความหมายเลย

[BRIDGE:]
I've put my trust in you
ฉันเชื่อใจในตัวเธอ
Pushed as far as I can go
ทุ่มเททุกแรงกายแรงใจ
For all this
ทั้งหมดนี้
There's only one thing you should know
อยากให้เธอรู้ไว้อย่างหนึ่งนะ
I've put my trust in you
ฉันอุตส่าห์เชื่อใจเธอ
Pushed as far as I can go
ทุ่มทุกอย่างเท่าที่ทำได้
For all this
ฉนั้นแล้ว
There's only one thing you should know
ขอบอกให้เธอรู้ไว้อย่างนะ

[CHORUS:]
I tried so hard
ฉันรนแทบตาย
And got so far
จนไปได้ไกล
But in the end
แต่ท้ายที่สุด
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีค่าอะไรเลย
I had to fall
ฉันต้องล้มลง
To lose it all
ต้องเสียทุกสิ่ง
But in the end
แต่สุดท้ายแล้ว
It doesn't even matter
มันกลับไม่มีความหมายเลย

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง In My Remains - Linkin Park

IN MY REMAINS
(ส่วนที่เหลือ)

คำแปล: Zinerdiers      
จัดทำZinerdiers
เรียบเรียง: Linkin Park
อัลบั้มLiving Things



[VERSE#1:]
Separate
ความแตกแยก
Sifting through the wreckage
มักต้องผ่านวิกฤตมากมาย
I can't concentrate
อยู่ตลอดเวลา
Searching for a message
พยายามหาหนทาง
In the fear and pain
ในความกลัวและความเจ็บปวด
Broken down and waiting
ปล่อยให้พังลงแล้วรอ
For the chance to feel alive
โอกาสกับการลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

[CHORUS:]
Now in my remains
ส่วนที่เหลือของฉัน
Are promises that never came
คือคำสัญญาที่เป็นเพียงลมปาก
Set the silence free
ปล่อยความเงียบงันครอบคลุม
To wash away the worst of me
เพื่อล้างบาปเลวๆของฉัน

[VERSE#2:]
Come apart
ความแตกต่าง
Falling in the crack
กลายเป็นเพียงเศษชิ้นส่วน
Of every broken heart
ของหัวใจที่แตกสลาย
Digging through the wreckage
การสูญเสียผ่านพ้นไป
Of your disregard
กับความเย็นชาของคุณ
Sinking down and waiting
ปล่อยจมลงไปสุดใจ
For the chance to feel alive
แล้วรอโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

[CHORUS:]
Now in my remains
สิ่งสุดท้ายของฉัน
Are promises that never came
เป็นเพียงคำสัญญาที่ไม่มีวันป็นจริง
Set the silence free
ปล่อยความเงียบงันครอบคลุม
To wash away the worst of me
เพื่อล้างบาปเลวๆออกไป

[BRIDGE:] [x4]
Like an army, falling
ดังทหารกล้า สิ้นชีพ
One by one by one
ลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ

[CHORUS:]
(Mix: one by one, one by one, one by one by one)
 (ผสมผสาน: ลงเรื่อยๆ ลงเรื่อยๆ ลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ)
Now in my remains
สิ่งสุดท้ายของฉัน
Are promises that never came
คือคำสัญญาที่เป็นเพียงลมปาก
Set the silence free
ปล่อยความเงียบงันครอบคลุม
To wash away the worst of me
เพื่อล้างบาปช้านี้ออกไป

[BRIDGE:] [x2]
Like an army, falling
ดังทหารกล้า สิ้นชีพ
One by one by one
ลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Crawling - Linkin Park

CRAWLING
(ความกดดัน)

คำแปล: Zinerdiers      
จัดทำZinerdiers
เรียบเรียง: Linkin Park
อัลบั้มHybrid Theory
คำเตือนเพลงนี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมอยู่ โปรดใช้วิจารณยานในการอ่าน


ความไม่เป็นตัวของตัวเองผมรู้พวกคุณบางคนส่วนใหญ่ก็เป็นสติปัญญาสมาธิวอกแวก ใจที่ไม่อยู่กับที่ ที่อาจจะมาจากความ รักโลภโกรธหลง ทำให้บางครั้งก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ มันต้องทำต้องทำอย่างเดียว ดังกิเลสตัณหา (หลักธรรมแทรกซึมละ ฮ่าๆๆ) เพลงนี้ มีอยู่สองอารมณ์คือ ความเย็นชาจากท่อน Verse ที่ดูเหมือนนักร้องกำลังจะใส่อารมณ์และตั้งสมาธิยังไงยังงั้น แต่พอจะจบท่อน Bridge อารมณ์ก็เริ่มเปลี่ยนกลายเป็นความโมโหรำคาญ มัดรวมกันมาเป็นท่อน Chorus ซึ่งเท่าที่แปลเพลงนี้ออกมาแล้ว เพลงนี้ทำเอาเสียเวลาไปหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ด้วยเหตุที่เพลงนี้มันมีความหมายที่กำกวมซับซ้อนอยู่เยอะ เลยรู้สึกว่ายังไงมันก็ต้องเท้าความก่อนให้คนอ่านได้เริ่มอ่านแปลแบบนี้อยู่ดี ฮ่าๆๆ แต่ยังไงก็ช่างผมก็จะเท้าความทุกเพลงก่อนทุกครั้ง เผื่อว่าบางทีคนที่เข้ามาอ่านอาจจะได้พอเข้าใจบ้าง หรือบางครั้งก็มีความรู้สึกว่าเท้าความไป มันก็ทำให้รู้สึกว่า มันก็ไม่ค่อยทำให้ตูเข้าใจขึ้นมาเลยซักนิด ฮ่าๆๆ Xจบ

ปล. เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมแปลแล้วใช้คำอุทานเป็นเพลงแรกนะครับ เพื่อให้ได้อรรถรสแล้วอารมณ์คล้อยตามไปกับเพลง #GO ENJOY!
________________________________________________________________________

[CHORUS:]
Crawling in my skin
คลานอยู่ในตัวกูเนี่ย
These wound they will not heal
แผลนี้เยียวยาไม่หายหรอก
Fear is how I fall
เพราะกลัวถึงล้มเหลวไง
Confusing what is real
งงโว่ย อะไรคือความจริง

[VERSE#1:]
There's something inside me that pull beneath the surface
บางสิ่งบางอย่างมันลุกลนอยู่ในตัวกูนี่
Consuming, confusing
มันกัดกิน น่าสับสนจริง
This lack of self-control I fear is never ending
มันทำเอากูรู้สึกแย่และกลัวจะไม่จบสิ้นซักที
Controlling. I can't seem
มันควบคุม กูไม่รู้ว่า

[BRIDGE:]
To find myself again
ตัวตนของตัวเองอยู่ไหน
My walls are closing in
กำแพงกำลังบีบเข้ามาแล้ว
(Without a sense of confidence and I'm convinced that there's just too much pressure to take)
(เมื่อไร้ซึ่งความยึดมั่นแล้ว จึงมีสิ่งที่กูรู้สึกว่า กูเริ่มอดกลั้นไม่อยู่ล่ะ)
I've felt this way before
ไอ้ความบ้าบอแบบนี้
So insecure
ช่างอันตราย

[CHORUS:]
Crawling in my skin
คลานอยู่ในตัวกูเนี่ย
These wound they will not heal
แผลนี้รักษาไม่หายหรอก
Fear is how I fall
เพราะกลัวถึงล้มเหลวไง
Confusing what is real
สับสนโว่ย อะไรคือความจริง

[VERSE#2:]
Discomfort endlessly has pulled itself upon me
ไอความอึดอัดนี่มันแดกดันกูไม่รู้จบเลย
Distracting, reacting
มันเสียสติ ต้องดิ้นรน
Against my will I stand beside my own reflection
ต่อต้านแล้วยืนมองกับตัวเองอีกมุมหนึ่ง
It's haunting how I can't seem
มันหลอนประสาท กูไม่รู้เลยว่า

[BRIDGE:]
To find myself again
ตัวตนของตัวเองอยู่ไหน
My walls are closing in
กำแพงกำลังบีบเข้ามาแล้ว
(Without a sense of confidence and I'm convinced that there's just too much pressure to take)
(เมื่อไร้ซึ่งความยึดมั่นแล้ว จึงมีสิ่งที่กูรู้สึกว่า กูเริ่มอดกลั้นไม่อยู่ล่ะ)
I've felt this way before
ไอ้ความรู้สึกแบบนี้
So insecure
ไม่ปลอดภัยโว่ย

[CHORUS:]
Crawling in my skin
คลานอยู่ในตัวกูเนี่ย
These wound they will not heal
แผลนี้เยียวยาไม่หายหรอก
Fear is how I fall
เพราะกลัวถึงล้มเหลวไง
Confusing what is real
งงโว่ย อะไรคือความจริง

[PRE-CHORUS:]
Crawling in my skin
คลานอยู่ในตัวกูเนี่ย
These wound they will not heal
แผลนี้รักษาไม่หายหรอก
Fear is how I fall
เพราะกลัวถึงล้มเหลวไง
Confusing, confusing what is real
สับสนมึนงงไปหมด อะไรคือความจริง

(There's something inside me that pull beneath the surface)
(บางสิ่งบางอย่างมันดิ้นรนอยู่ในตัวกูนี่)
(Consuming)
(มันกัดกิน)

Confusing what is real
อะไรคือความจริงวะ

(This lack of self-control I fear is never ending)
(มันทำเอากูรู้สึกแย่และกลัวจะไม่จบสิ้นซักที)
(Controlling)
(มันควบคุม)

Confusing what is real
บอกที อะไรคือเรื่องจริง

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

แปลเพลง Burn It Down - Linkin Park

BURN IT DOWN
(เผาทำลาย)

คำแปล: Zinerdiers      
จัดทำZinerdiers
เรียบเรียง: Linkin Park
อัลบั้มLiving Things

บางทีการเต็มที่กับบางสิ่งบางอย่างมันก็ทำให้สิ้นหวังได้เหมือนกันดังเช่นการส่งเสริมด้านการเรียนรู้ ความเก่งกาจ การฝึกฝนให้ กับอีกฝ่าย แล้วเมื่อหลังจากนั้นเขาก็มีความเต็มเปลี่ยมไปได้ หลายๆด้าน แล้วก็ลืมเราไป หลังจากนั้น ก็อวดอ้าง สรรพคุณของตัวเองว่ามีนู่นมีนี่ แล้วเอาเราไปดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม สุดท้าย การที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ บางครั้ง ก็อาจจะต้องเป็นการ ฆ่า! หรือหักมุม โดยการ เข้าปะทะ โดยใช้ศักยภาพของตนเอง บางครั้งก็อาจจะเป็นการโชว์พราวก็ได้ (ฮ่าๆๆ) ว่าตัวเราเองมีดีขนาดไหน เอาให้ไอหมอนั่นมันจ๋อยไปเลย เอาให้มันหมดหวังไป #ตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วแปลออกมาได้ ก็ประมาณนี้แหละ เพราะว่า ข้อมูลกับ MV ที่ได้มามันไม่ค่อยจะรู้เรื่องสอดคล้องหรือทำความเข้าได้มากซะเท่าไหร่ [ยังไงก็ขอให้สนุกไปกับเพลงเด้อ]
________________________________________________________________________

[VERSE#1:]
The cycle repeated
สรรพสิ่งเริ่มหมุนเวียนใหม่
As explosions broke in the sky
เหมือนกับว่าเริ่มจุดระเบิดบนน่านฟ้า
All that I needed
สิ่งที่ผมต้องการที่สุด
Was the one thing I couldn't find
คือสิ่งเดียวที่ผมไม่มีวันพบเจอ
And you were there at the turn
แล้วคุณที่อยู่ตรงนั้น
Waiting to let me know
รอที่จะบอกผมให้รู้

[CHORUS:]
We building it up
ว่าเราสร้างมันขึ้นมา
To break it back down
เพื่อทลายมันสิ้นลง
We building it up
เราสร้างมันขึ้นมา
To burn it down
เพื่อเผามันทิ้ง
We can't wait
ไม่รอแล้ว
To burn it to the ground
ต้องเผามันให้วอดวาย

[VERSE#2:]
The colors conflicted
สีที่มันขัดแย้งกัน
As the flames climbed into the clouds
ดังเปลวเพลิงมอดไหม้ใต้เมฆหมอก
I wanted to fix this
ผมต้องแก้ไขมัน
But couldn't stop from tearing it down
แต่ไม่อาจหยุดความโกลาหลได้
And you were there at the turn
แล้วคุณที่อยู่ตรงนั้น
Caught in the burning glow
ติดอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง
And I was there at the turn
แล้วผมที่อยู่ด้วยนั้น
Waiting to let you know
รอคอยบอกให้คุณรู้

[CHORUS:]
We building it up
ว่าเราสร้างมันขึ้นมา
To break it back down
เพื่อทลายมันลง
We building it up
เราสร้างมันขึ้นมา
To burn it down
เพื่อเผามันทิ้ง
We can't wait
เราไม่รอ
To burn it to the ground
ต้องเผามันให้วอดวาย

[BRIDGE:]
You told me yes
คุณบอกผมว่า ใช่แล้ว
You held me high
คุณเทิดทูนผมมาก
And I believed when you told that lie
แต่ผมก็หลงเชื่อคำลวงทั้งหลายนั่น
I played soldier, you played king
ผมเป็นได้แค่ทหาร แต่คุณเป็นดังราชา
And struck me down when I kissed that ring
ทำผมดูต้อยต่ำถ้าผมจุมพิตแหวนนั่น
You lost that right, to hold that crown
คุณไม่มีสิทธิ์ ครองมงกุฎแล้ว
I built you up but you let me down
ผมสร้างคุณมาแต่ผมกลับโดนคุณทิ้งขว้าง
So when you fall, I'll my turn
ยามคุณหมดหวัง ก็ถึงตาผมบ้าง
And fan the flames
จะพัดเปลวเพลิง
As your blazes burn 
ให้มันลุกโชนเหมือนใจคุณ

[PRE-CHORUS:]
And you were there at the turn
แล้วคุณที่อยู่ตรงนั้น
Waiting to let me know
รอที่จะบอกผมให้รู้

We building it up
ว่าเราสร้างมันขึ้นมา
To break it back down
เพื่อทลายมันลง
We building it up
เราสร้างมันขึ้นมา
To burn it down
เพื่อเผามันทิ้ง
We can't wait
รอไม่ได้แล้ว
To burn it to the ground
ต้องเผามันไปให้หมด

(When you fall, I'll take my turn)
(ยามคุณหมดหวัง ก็ถึงตาผมบ้าง)
(And fan the flames)
(จะพัดเปลวเพลิง)
(As your blazes burn)
(ให้มันลุกโชนเหมือนใจคุณ)

We can't wait
ไม่รอช้าแล้ว
To burn it to the ground
ต้องเผามันให้ราบคาบ

(When you fall, I'll take my turn)
(ยามคุณหมดหวัง ก็ถึงตาผมบ้าง)
(And fan the flames)
(จะพัดเปลวเพลิง)
(As your blazes burn)
(ให้มันลุกโชนเหมือนใจคุณ)

We can't wait
ไม่รอแล้ว
To burn it to the ground
ต้องเผามันให้วอดวาย

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แปลเพลง I'll Be Gone - Linkin Park

I'LL BE GONE
(ลาจาก)
คำแปล: Zinerdiers      
จัดทำZinerdiers
เรียบเรียง: Linkin Park
อัลบั้มLiving Things

เพลงนี้น่าจะหมายถึง "ความยึดมั่น" เหมือนกับ
"ตะวันยังเคียงคู่ฟ้า" ถึงวันนี้จะได้ทำอะไรที่มัน
ผิดพลาดไป แต่อย่างไรพรุ่งนี้ก็ยังสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อยู่ดี
"ปล่อยแสงตะวันลับขอบฟ้า แล้วรอมันกลับมา ถึงวันรุ่งขึ้น
ตัวตนของฉันในวันนี้คงจากไปแล้ว (แปลตรงตัว)" ท่อนนี้อาจ
สื่อถึงการปล่อยละทิ้งความสิ้นหวังในวันนี้แล้ว ในวันพรุ่งนี้หรือวันหน้า
ค่อยมาเริ่มต้นแล้วทบทวนใหม่ ♫ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ♪
ปล.บางท่อนก็แปลเองงงเองโว้ย! ฮ่าๆ, ก็นะแปลครั้งแรกผิดๆถูกๆ โดนด่าตำหนิบ้างก็ดีเผื่อจะได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น

________________________________________________________________________


Like shinning oil
ดังเปลวเพลิงประกาย
This night is dripping down
อย่างไรก็ต้องมอดลง
Stars are slipping down
ดวงดาวค่อยๆพรากสายตา
Glistening
ริบหรี่ลง
And I'm trying not to think
แต่ฉันคงไม่คิดหรอกว่า
What I'm leaving now
ได้ละทิ้งอะไรไปบ้าง
No deceiving now
ไม่มีคำแก้ตัวใดแล้ว
It's time you let me know
จึงขอคุณบอกให้ฉันรู้
Let me know
ให้ฉันตาสว่างซักที


[CHORUS:]
When the lights go out
แล้วแสงนั้นเริ่มเลือนลาง
And we open our eyes
ทำให้เรารู้สึกตัวขึ้น
Out there in the silence
แต่ความเงียบงันดันครอบคลุม
I'll be gone
ทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนแล้ว
I'll be gone
คงจากไปแล้ว
Let the sun fade out
ปล่อยแสงตะวันลับขอบฟ้า
And another one rise
แล้วรอมันกลับมา
Climbing through tomorrow
ถึงวันรุ่งขึ้น
I'll be gone
ฉันคงจากไปแล้ว
I'll be gone
และละทิ้งทุกสิ่ง


This in between us 
ในความสำพันธ์ของเรานั้น
Is getting thinner now
ช่างไม่มีใยดีเอาซะเลย
Into winter now
ช่างเยือกแข็งเย็นชา
Bitter sweet
เริ่มดูแปรปรวน
Across that horizon
สุดโพ้นเส้นขอบฟ้า
This sun is setting down
ตะวันกำลังร่ำลาตกลง
No forgetting now
เป็นแบบนี้ตลอดไป
It's time you let me go
แต่ขอให้คุณปล่อยฉันไปเสียที
Let me go
ปล่อยฉันไปเถิด


[CHORUS:]
When the lights go out
แสงอันเจิดจ้าจางลง
And we open our eyes
ทำให้เราลืมตาขึ้น
Out there in the silence
พร้อมสาดความเงียบงัน
I'll be gone
ดังว่าฉันได้จากไป
I'll be gone
เหมือนจากไปแล้ว
Let the sun fade out
ปล่อยแสงตะวันลับขอบฟ้า
And another one rise
แล้วรอมันกลับมา
Climbing through tomorrow
จวนถึงวันรุ่งขึ้น
I'll be gone
ฉันคงจากไปแล้ว
I'll be gone
ต้องละทิ้งทุกสิ่งแล้ว


And tell them I couldn't help myself
ตะโกนออกไปเลยว่าฉันมันไม่เอาไหน
And tell them I was alone
ร้องโวยไปเลยว่าฉันมันต้องไร้สังคม
Oh, tell me I am the only one
คงได้แต่, พูดกับตัวเองว่าถึงจะตัวคนเดียว
And there's nothing left to stop me
ยังไงก็ต้องเดินหน้าสู้ต่อไปไม่รู้จบ


[CHORUS:]
When the lights go out
ยามที่แสงอันเจิดจรัดได้หายไป
And we open our eyes
มันช่างดูตื่นตระหนก
Out there in the silence
แล้วสาดความเงียบสงัด
I'll be gone
ให้เหมือนว่าฉันได้จากไป
I'll be gone
เหมือนจากไปแล้ว
Let the sun fade out
ปล่อยแสงตะวันลับขอบฟ้า
And another one rise
แล้วรอมันกลับมา
Climbing through tomorrow
จนถึงวันรุ่งขึ้น
I'll be gone
ฉันคงจากไปแล้ว
I'll be gone
ลาก่อนทุกสิ่งทุกอย่าง
I'll be gone
โบกมือลาความสิ้นหวัง